ต้นกำเนิดพีวีซี (PVC)

ต้นกำเนิด พีวีซี (1)

ต้นกำเนิดของพีวีซี (PVC)
พอลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinyl Chloride) หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า PVC ถูกสังเคราะห์ขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) โดย ยูจีน บาวมันน์ (Eugen Baumann) นักเคมีชาวเยอรมัน ซึ่งค้นพบโดยบังเอิญระหว่างการทดลองทางเคมี อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก PVC ยังคงเป็นวัสดุที่ยากต่อการแปรรูปและยังไม่มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

การพัฒนา PVC ในเชิงพาณิชย์ในศตวรรษที่ 20 นักเคมีชาวรัสเซีย อีวาน ออสโทรมิสเลนสกี (Ivan Ostromislensky) และ ฟริตซ์ คลาตเต้ (Fritz Klatte) ได้ศึกษาเกี่ยวกับ PVC และพยายามพัฒนาวิธีการทำให้วัสดุนี้สามารถใช้งานได้จริง พวกเขาพบว่า PVC เป็นโพลิเมอร์แข็งที่ยากต่อการขึ้นรูป และกระบวนการผลิตในช่วงแรกมักสูญเปล่าเนื่องจากปัญหาการควบคุมกระบวนการโพลีเมอไรเซชัน

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926) วัลโด เซมอน (Waldo Semon) และบริษัท BF Goodrich ได้ค้นพบวิธีปรับปรุง PVC ให้สามารถนำมาใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ โดยพวกเขาใช้ สารเติมแต่ง (Plasticizers) เพื่อทำให้ PVC มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ส่งผลให้ PVC เริ่มถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ และกลายเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมทั่วโลก

 

PVC และกระบวนการผลิตเรซิน (Resin) เป็นส่วนประกอบหลักในการผลิต PVC โดยเรซินของ PVC มีลักษณะเป็น วัสดุแข็งเปราะสีขาว มีทั้งในรูปแบบผงและเม็ด วัสดุนี้ได้มาจากกระบวนการ โพลีเมอไรเซชันของโมโนเมอร์ไวนิลคลอไรด์ (Vinyl Chloride Monomer: VCM) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ควบคุมให้โมโนเมอร์มาเรียงตัวกันจนเกิดเป็นพอลิเมอร์ที่แข็งแรงและมีคุณสมบัติตามที่ต้องการ

ปัจจุบันพีวีซีเข้ามาแทนที่วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างแบบดั้งเดิม เช่น เซรามิก โลหะ คอนกรีต ไม้ ยาง และอื่นๆ อีกมากมาย พีวีซีผลิตขึ้นโดยกระบวนการโพลีเมอไรเซชันของโมโนเมอร์ไวนิลคลอไรด์

พีวีซีเป็นวัสดุที่ไม่มีรูปร่างแน่นอน จึงสามารถผสมกับสารเคมี หรือสารอื่นๆ ได้ง่าย ขึ้นอยู่กับสารเติมแต่งที่ใช้ในการผลิตพีวีซี ผลิตภัณฑ์ต่างๆ สามารถเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ มากมายได้ เช่น ป้องกันฝ้า มีสีต่างๆ ยืดหยุ่น ทนไฟ ยืดหยุ่น ทนต่อแรงกระแทก และป้องกันจุลินทรีย์  เพื่อให้ตรงวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้งาน

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *